Pewdiepie คือใคร

Pewdiepie คือใคร แล้วอะไรที่ทำให้เขาเป็นราชาแห่ง YouTube? คงปฏิเสธไม่ได้ว่าความฝันของเด็กสมัยนี้คือการได้เป็น “YouTuber” แต่ยิ่งกว่านั่นคือการได้เล่นเกมแถมยังสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ถ้าพูดถึง YouTuber สายเกมส์ คงไม่มีใครไม่รู้จัก Pewdiepie แล้วเขามีดีอะไรบ้าง ? ถึงอยู่ยงคงกระพันเป็นดาวค้างฟ้า และใคร ๆ ก็ต่างยกเขาเป็นราชาแห่ง YouTube ยูทูปเบอร์

แท้จริงแล้ว ชื่อจริงของ Pewdiepie คือ Felix Kjellberg เกิดและโตที่สวีเดน ปัจจุบันมียอด Subscriber ถึง 110 ล้านคน และในปี 2019 เขาเคยเป็น Youtuber ที่มีรายได้มากที่สุดเป็นอันดับ 9 ของโลก ซึ่งทำเงินได้กว่า 508 ล้านบาท youtuber 2024

จุดเริ่มต้นของราชายูทูปเบอร์เริ่มต้นในปี 2010 เมื่อเขารู้สึกว่าการเรียนไม่ใช่ทาง จึงลาออกมาทำ YouTube เติมตัว นั้นทำให้พ่อแม่เขาเลิกให้เงิน เขาจึงต้องหารายได้เลี้ยงชีพตัวเองด้วยการขายงานศิลปะที่วาดด้วย Photoshop และเป็นพนักงานขายในร้านฮอตดอก

ประวัติ PewDiePie

Pewdiepie PewDiePie หรือ Felix Arvid Ulf Kjellberg ( เฟลิกซ์ อาร์วิด อุลฟ์ เชลล์แบรย์ ) เขาเป็นชาวสวีเดน เป็นที่รู้จักจากการโชว์สกิลวาดรูปตัวละครเกมอย่างมาริโอ้ และโซนิก บน Photoshop อยู่เป็นประจำ จนทำให้เขาเลือกที่จะศึกษาในด้าน Industrial Economics and Technology Management หรือมีชื่อไทยว่า เทคโนโลยีการจัดการอุตสาหกรรมนั่นเอง

ในช่วงแรกของ PewDiePie เขามักจะทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการวาดรูปที่เราได้กล่าวไปข้างต้น นั้นคือการโชว์เทพด้านการวาดรูปบน Photoshop และโชว์ไลฟ์สไตล์ของเขากับเพื่อนๆ โดยมีเรื่องของการแคสต์เกมเข้ามาบ้างในบ้างครั้ง เขานับเป็นบุคคลแรกๆ ที่เริ่มเขามาบุกเบิกในการแคสต์บนยูทูปเลยก็ว่าได้

ในที่สุดเขาก็ได้ขึ้นสู่จุดสูงสุดในชีวิตได้ไม่นาน เขาก็โดนมรสุมลูกใหญ่เล่นงานในช่วงปี 2017 หลังจากโพสต์คลิปที่มีเนื้อหาต่อต้านชาวยิวและสนับสนุนการกระทำของอดอล์ฟฮิตเลอร์ถึงจำนวน 9 ครั้งด้วยกัน แม้เหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้นเขาก็ไม่ได้ออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบ ยูทูปเบอร์

ในปี 2019 ของชีวิต PewDiePie เขาได้มีข่าวดีโดยเข้าพิธีแต่งงานกับสาวสวยอย่าง มาร์เซีย แฟนสาวอดีตยูทูบเบอร์ชาวอิตาเลียนที่คบหาดูใจกันมานานถึง 8 ปี หลักจากที่เขาได้แต่งงานแล้วนั้น เขาก็ยังคงใช้ชีวิตและสร้างคอนเทนต์ของตัวเองตามปกติ โดยไม่ต้องตั้งเป้าแข่งขันกับใครอีก youtuber 2024

6 สิ่งที่ช่วยให้ Pewdiepie มีวันนี้

1. สกิลการตัดต่อภาพและวิดีโอ (Video Editing and Photoshop)

สร้างคอนเทนท์หลากหลาย บวกกับเทคนิคการตัดต่อภาพให้ตลก รู้จักใช้ Meme เพื่อสร้างสีสัน และการตัดต่อวิดีโออย่างมีเอกลักษณ์

2. คาแลกเตอร์ชัด (Unique Character)

มีบุคลิกเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร บวกกับความเป็นอารมณ์ขัน แถมเน้นสร้างคอนเทนท์เป็นแนวตลก คลายเครียด ประกอบกับสิ่งที่เขาทำได้ดีอย่างการเล่นเกมเข้ามาทำให้เกิดซีรีย์อย่าง “Let’s Play” ให้คนเข้ามาดูคลายเครียด ยูทูปเบอร์

3. การเล่าเรื่อง (Story Telling)

Pewdiepie ไม่ได้มีดีแค่อารมณ์ขัน แต่ยังรวมถึงการเล่าเรื่องผ่านมุมมองและทัศนคติของเขา เขาไม่มองข้ามเรื่องที่ควรจะซีเรียส ประเด็นทางสังคมที่ละเอียดอ่อน และวิเคราะห์สถานการณ์ได้เฉียบขาด ทำให้เขาสามารถเกาะกระแสและมีคลิปไวรัลได้เรื่อย ๆ

4. คอนเทนต์แปลกใหม่ (Original Content)

เขามีการปรับเปลี่ยนคอนเทนต์ให้เข้ากับยุคสมัยอยู่เสมอ ในปี 2010 ตลาดเกมส์กำลังมาแรง การแคสต์เกมด้วยเสียงที่โวยวาย หัวเราะแรง ๆ ทำหน้าฮา ๆ ทำให้คนชอบเสมอ แต่เดี๋ยวนี้เขาปรับเปลี่ยนคอนเทนต์ให้เข้ากับยุคนี้ด้วย

5. ขยันลงคลิป (Daily Content)

เขามีคอนเทนท์ให้แฟน ๆ ดูทุกวัน แม้ว่าในวันที่เขาไปเที่ยวเขาจะอัดคลิปไว้ และมีลงสำหรับทุกวันเสมอ youtuber 2024

6. เป็นคนเริ่มต้น (Invented)

ข้อนี้สำคัญ เพราะ เขาแทบจะเป็นคนแรก ๆ ของตลาดแคสต์เกมใน YouTube ดังนั้นนักพัฒนาเกมมักจะส่งเกมให้เขาเล่นเพื่อรีวิวเป็นคนแรก และเหล่าเกมเมอร์ทั้งหลายก็จะมาดูคลิปเขาก่อนตัดสินใจซื้อ ทำให้เขามียอดวิวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ยิ่งดัง ยิ่งมีดราม่า

อย่างไรก็ดีการเป็นคนดังก็ทำให้เป็นที่สนใจ ความเป็นราชาจึงแปรเปลี่ยนเป็นกระแสดราม่า จุดเปลี่ยนคือ Pewdiepie ไปจ้างฟรีแลนซ์จาก Fiver เพื่อตัดต่อวิดีโอ แต่นักตัดต่อ ตัดมุกตลกที่มีเนื้อหาสนับสนุนกลุ่มต่อต้านชาวยิว “Death to all Jews” ส่งผลให้คนในสังคมโกรธและเขาก็ได้ออกมาขอโทษ ยูทูปเบอร์

ต่อมา Pewdiepie มีคู่แข่งอย่าง T-series ที่กำลังจะโค่นล้มยอด Subscriber อันดับ 1 ในตำนาน ด้วยยอดที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดเทียบเคียงกับ Pewdiepie และด้วยนิสัยส่วนตัวของ Pewdiepie ที่เป็นคนชอบล้อเลียน เขาจึงแต่งเพลงล้อเลียนคู่แข่งเพื่อความตลกอย่างเพลง “Bitch Lasagna”

แฟนคลับ Pewdiepie จึงเริ่มไปถล่มในช่องของคู่แข่งจนเกิดกระแส “เหยียดเชื้อชาติคนอินเดีย” กลายเป็นสงครามแข่งขันจำนวน Subscribers ผ่านโซเชียลในที่สุด จนเป็นเหตุชนวนการก่อการร้าย อย่างการกราดยิงที่มัสยิดใน New Zealand ทำให้คนเสียชีวิตถึง 50 คน และผู้ก่อการร้ายได้ตะโกนว่า “Subscribe to Pewdiepie”

เหตุการณ์นี้ทำให้ Pewdiepie ออกมาบอกให้ยุติแคมเปญนี้ เพราะมันถูกนำไปใช้ในลักษณะเหยียดชาติพันธุ์ และเขาก็กลับมาผลิตคอนเทนท์แบบปกติ

ปัจจุบันยอด Subscriber ของ Pewdiepie เป็นอันดับ 3 รองเพียง T-Serie ช่องเพลงจาก Bollywood และ Cocomelon ช่องเพลงเด็กที่เติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2019 แต่ Pewdiepie ยังถือว่าเป็นช่องยูทูปเบอร์คนแรกที่ผลิตคอนเทนท์ด้วยตัวเองที่มาไกลระดับนี้ youtuber 2024

บทความแนะนำ